2553-10-07

การดูแลรอยสัก หลังการสัก

รอยสัก ใหม่ๆรักษาอย่างไร

-หลัง จากที่ ขบวนการสักเสร็จสิ้นลง ช่างสักจะทายาให้ทั่วบริเวณรอยสักใหม่ ด้วยแอนตี้เซปติกครีม แล้วปิดรอยสักด้วย ผ้าพันแผลที่ไม่ใช่แบบผ้าก็อต แต่เป็นแผ่นพลาสติกใสบางๆ

-ให้ปิดผ้าพันแผลไว้อย่างน้อยประมาณ 4ชั่วโมงครับ ทำไมต้อง4ชั่วโมง? เพราะว่าร่างกายของมนุษย์โดยทั่วไป จะใช้เวลาระหว่าง ครึ่งชั่วโมง-3ชั่วโมง เปลี่ยนสถานะของเลือด จากของเหลวจนถึงสภาพหนืด หรือหมายถึงเลือดเริ่มหยุดไหล ในเวลาระหว่างนั้นนั่นเองครับ

-ซึ่งถ้าคุณเอาผ้าพันแผลออกก่อนเวลา นั้น แล้วเลือดของคุณยังคงซึมๆอยู่นั้น หรือเลือดเปลี่ยนสถานะ กลายเป็นน้ำเหลือง(น้ำเลือดใสๆ) ที่ยังคงซึมออกมาตามรอยสักใหม่นั้น และเมื่อคุณปล่อยให้มันแห้งเองบนรอยสักใหม่นั้นแบบนั้น ซึ่งทำให้พื้นผิวด้านบน ของรอยสักนั้นมีชั้นของน้ำเหลืองที่แห้งหนากว่าปรกติ ที่ควรจะเป็น มาปกคลุมรอยสักใหม่ของคุณ (ซึ่งรอยสะเก็ดนี้คุณไม่ควรที่จะแกะหรือเกา รอยสะเก็ดนั้นๆ) นั่นหมายความว่า ระยะเวลาของการรักษาแผลนานกว่าปรกติ และมีโอกาสเสี่ยงกับการพลาด เมื่อคุณเผลอไปแกะหรือเกา โดยไม่ได้ตั้งใจ หรือตั้งใจก็ตาม ซึ่งจากการแกะหรือเกาสะเก็ดแผลดังกล่าว หมายถึงคุณกำลังขุดสีที่รอยสักออก เป็นผลทำให้สีหลุดหายไป จากบริเวณนั้นของรอยสักคุณ

-หลังจากนั้น(ผ่าน4ชั่วโมง+) ให้นำผ้าพันแผลออก ซึ่งบางครั้งก็เป็นการง่ายที่จะเอาออก แต่ถ้าคุณมีความรู้สึกว่า ผ้าพันแผลดังกล่าวติดกับรอยสักชิ้นใหม่ของคุณอยู่นั้น ให้หยุดการแกะทันทีครับ ให้ใช้การเปิดน้ำไหลผ่าน แล้วค่อยๆลูปบริเวณ ผ้าพันแผลเบาอย่างนุ่มนวล จนกว่าผ้าพันแผลจะหลุดออก อย่ารีบดึงออกในทีเดียวครับเพราะจะทำให้พื้นผิวรอยสักของคุณเกิดความเสียหาย ได้ ถ้าลองครั้งแรกด้วยน้ำแล้วผ้าพันแผลยังไม่ออก พยายามลองทำไปเรื่อยอย่างช้าๆ ใจเย็นๆครับ ดีกว่าการที่คุณใจร้อนดึงออกแล้ว การรักษายาวนานกว่าหรือ แม้แต่การที่คุณเอาสีสัก ที่ติดกับผ้าพันแผลนั้นออกไปด้วย(งานสักคุณ ก็จะเกิดรอยโหว่บริเวณดังกล่าว)

-จากนั้น ล้างรอยสักด้วยการผ่านน้ำ หมายถึงการอาบน้ำด้วยฝักบัว หรือเปิดน้ำไหลในขณะที่ล้าง ด้วยน้ำอุ่นๆ กับสบู่อ่อนๆจากนั้น ซึ่งสบู่ที่แนะนำให้ใช้ ควรเป็นสบู่ชนิด ที่ไม่มีสารประกอบดังนี้ มีน้ำหอมผสมอยู่, สารระงับกลิ่นกาย, มีสารปรับสภาพผิว หรือผสมด้วยสารบำรุงผิวให้อ่อนนุ่ม ฯลฯ ทางที่ดีควรใช้สบู่สำหรับเด็กจะดีที่สุดครับ

-เมื่อคุณล้างรอยสัก ใหม่เสร็จแล้ว คราวนี้ก็มาถึงการซับให้แห้ง ผมแนะนำให้ใช้กระดาษเช็ดมือแบบหนาแต่นุ่ม(ที่ม้วนจะใหญ่ๆ ความสูงเป็น2เท่าของทิชชู่ ขนาดปกติ) ซับและเช็ดรอยหรือคราบเลือดและน้ำเหลืองออกให้มากที่สุด แต่ต้องทำอย่างนุ่มนวลนะครับ จำไว้อย่างหนึ่งครับ ว่าเลือดหรือน้ำเหลืองที่แห้งหมายถึงสะเก็ดแผลที่หนา, ไม่มีเลือดหรือน้ำเหลืองแห้ง หมายถึงผิวหนังอ่อนๆแบบธรรมชาติ(ไม่มีสะเก็ดนั่นเอง)

-เมื่อเช็ด รอยสักใหม่ของคุณ แห้งแล้ว(ขั้นตอนหลังจากการล้างทำความสะอาด) ปล่อยทิ้งไว้ซักระยะประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนที่จะทำการทายาบางๆ

-พยายาม ล้างรอยสักใหม่ ทุกๆ3ชั่วโมง หลังจากที่คุณนำผ้าพันแผลออก นี่เป็นวิธีการที่ทำให้คุณมั่นใจว่า จะไม่เกิดคราบเลือดหรือน้ำเหลือง เกาะติดบริเวณพื้นผิวด้านหน้า ของรอยสักใหม่

-(*Bepanthen) ยาทาที่เหมาะกับแผลรอยสัก เมื่อก่อนหน้านี้ ช่างสักหลายๆคน ใช้และแนะนำลูกค้าให้ใช้ วาสลิน สำหรับรอยสักใหม่ เป็นเวลาหลายปีมาแล้ว จากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้ยา เซวาลอน (Savalon) นักเคมีวิทยาได้ศึกษาและวิจัย จนได้มาเป็นครีมบีแพนเดนท์ ซึ่งใช้สำหรับ ทาก้นและสายสะดือของทารกแรกเกิด และบริเวณหัวนมของมารดาที่กำลังมีบุตร ซึ่งเป็นเหตุผลแรกที่ผลิตยาตัวนี้ขึ้นมา และยาแอนตี้เซปติก บีแพนเดนท์ เป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคทุกๆชนิด บนผิวหน้าของผิวหนัง และยังอ่อนโยน ซึ่งไม่ทำให้ผิวหนังไหม้ ด้วยส่วนผสมของน้ำมันจากอัลมอนด์(หมายถึงยาชนิดนี้อ่อนมาก ไม่เหมือน เซวาลอนๆนั้นแรงออกฤิทธิ์แรงเกินไป ไม่เหมาะที่จะใช้กับงานสัก) ซึ่งยาตัวนี้เป็นยาที่มีชื่อเสียงกับการนำมาใช้ การรักษาแผลรอยสักเป็นอย่างมาก(ร้านสักทุกร้านที่ออสฯใช้ยาตัวนี้ทั้งหมดเลย ครับ) นอกเหนือจากนี้ ผมก็เคยได้ยินครีมของโปรแทท(Protat) และแทททูกู(Tattoo Goo) โดยส่วนตัวยังไม่เคยลอง แทททูกูครับ แต่โปรแทท นี่เคยลองแล้ว แต่ดูเหมือนจะเลียนแบบส่วนผสมของ บีแพนเดนท์แถบทุกตัวเลย แต่ผลที่ใช้ไม่ค่อยประทับใจเท่าที่ควรครับ เลยต้องกลับมาใช้ บีแพนเดนท์ยืนพื้นในการดูแลรักษา รอยสักกับลูกค้ามาโดยตลอดครับ

-ห้าม ใช้ ครีมทาสำหรับริดสีดวงทวาร(ฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อครับ แต่มีหลายๆคนใช้ครีมประเภทนี้กับรอยสัก ????) และครีม ทุกๆครีมที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนคอร์ติโซน(Cortissone) ชนิดที่มาจากเปลือกหมวกไต ใช้สำหรับรักษาโรคไขข้ออักเสบหรืออาการภูมิแพ้บางอย่าง ซึ่งผสมอยู่ในครีมมาใช้รักาารอยสักใหม่ (พบในครีมประเภท ซีม่า ที่ใช้สำหรับรักษาโรคผิวหนัง) ซึ่งครีมเหล่านี้ ทำให้สีสักหลุดออกหมด(ต่ำสุดก็ประมาณ50เปอร์เซ็นที่ คุณต้องเสียสีที่อยู่ในรอยสัก) ในขณะช่วงระยะเวลาการรักษารอยสัก เพื่อนช่างสักของผมเคยเจอลูกค้าที่ใช้ครีมประเภทนี้ ซึ่งทั้งๆที่เขาได้บอกและอธิบายอย่างละเอียดยิบ ของขั้นตอนที่ควรปฏิบัติอย่างดีแล้ว ประมาณ10กว่าวัน ลูกค้าคนนั้นกลับมาด้วย รอยสักที่แถบมองไม่ออกเลยว่าเป้นภาพอะไร??? ช่างสักส่วนมาก ยินดีและอยากที่จะซ่อมงานสัก ที่ช่างได้ทำอยู่แล้วครับ เพราะไม่อยากให้งานของตัวเองออกไป แบบเสียๆแน่ๆ แต่เจอแบบนี้เข้าก็แถบร้องไห้เหมือนกันครับ เพราะมันแถบต้องเริ่มแก้งานกันใหม่หมด ทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดของช่างสักเลย แล้วก็ครีมประเภทปาล์ม ที่มีส่วนผสมของน้ำมันปิโตเลียม(ไขมันปลาวาฬ) อโลเวล่า หรือว่านหางจระเข้ (ใช่ครับมันดีต่อสุขภาพผิวหนัง แต่ไม่ส่งผลดีกับรอยสักเลยครับ) และก็ครีมหรือยาทุกชนิดที่มีส่วนผสมของ อัลกอล์ฮอล์(ทำให้ผิวหนังแห้ง แล้วก็ แสบแบบนรกเลยครับ)

-แสงแดด นี่ก็ห้ามเลยครับ เป็นของไม่ถูกกันอย่างมากกับรอยสักรอยใหม่แน่ๆครับ เนื่องจากระยะเวลาหลังจากการสัก ประมาณ3-4อาทิตย์ ผิวหนัง ที่มาปกคลุมรอยสักใหม่นั้น ยังเป็นเพียงชั้นผิวหนังที่บางๆ ซึ่งถ้าถูกแสงแดดโดยตรงกับรอยสักใหม่นั้นจะทำให้สี เกิดการหมองคล้ำ ไม่สดใสและเป็นผลกระทบ ภายในอนาคตในเรื่องของสีไม่สด ถึงแม้ว่ารอยสักนั้นมีอายุกี่ปีก็ตาม อย่าโดนแดด ดีที่สุดครับ คิดง่ายๆแค่คุณเอาภาพถ่ายรูปไปวางตากแดด ไม่กี่นาน สีก็จะซีดลงอย่างเห็นได้ชัดครับตัวอย่างคนรักรถ ยังหาผ้ามาคลุมกันแดดเลย เพราะกลัวรถสีซีด แล้วทำไมเรื่องของรอยสักจะไม่ดูแลกันอย่างดีเพราะมันเป็นเครื่องประดับติด ตัวราคาแพง ที่คุณสามารถอวดใคร ในทุกที่ทุกเวลาก็ได้(แม้ยามที่คุณไม่มีผ้าซักกะผืน ) ทางที่ดีหาครีมกันแดดแบบ SPF30+ มาใช้ก็อาจช่วยได้ ไม่มากก็น้อยครับ

-สปา และซาวน์น่า ไม่เหมาะอย่างยิ่งครับ และพวกน้ำที่มีคอลรีน ก็ไม่ควรครับ (การว่ายน้ำ ในสระน้ำที่ผสมคอลรีน)

หาก งานหรือ อาชีพของคุณ ต้องเผชิญกับฝุ่นและความสกปรก คุณย่อมมีความเสี่ยงสูง สำหรับระยะการดูแลรักษารอยสักใหม่ หมายถึงคุณมีอัตราเสี่ยงกับเชื้อโรคมากกว่าปรกติ ซึ่งจะเป็นผลให้เกิดการอักเสบได้ และใช้ระยะเวลารักษานานกว่าปรกติ ควรเลี่ยงที่จะให้งานสักใหม่เผชิญกับฝุ่นและความสกปรกดังกล่าว หาผ้าปิดแผล แต่ก่อนทำการปิดให้ใช้ครีมรักษารอยสัก ทาเป็นชั้นบางๆไว้ด้วย เพื่อไม่ให้ผ้าพันแผลไปติดกับรอยสัก เมื่อเสร็จงาน ก็ควรแกะผ้าพันแผลออกด้วย เพื่อให้อากาศได้ถ่ายเท
รอยสักใหม่จะมีชั้น ผิวหนังบางๆปกคลุม ด้านบนของรอยสัก ผิวหนังส่วนดังกล่าวอาจเป็นไปได้ทั้ง2อย่าง คือ สีของชั้นผิวหนัง และสีที่ได้ทำการสัก ลักษณะของผิวหนังจะบางๆและผิวมันเหมือนแผลเป็น ไม่ต้องกังวลใจคิดว่างานสักเกิดมีปัญหาอะไรครับ
โดยปรกติถ้าคุณปฏิบัติ ตามขั้นตอนข้างต้นเป็นอย่างดีแล้ว ระยะเวลาการรักษารอยสักใหม่ กินเวลาประมาณ 5-14 วัน โดยประมาณ และผิวหนังจะกลับมาสู่ภาวะปรกติ เหมือนผิวธรรมดาที่ไม่ได้ทำการสัก หลังจาก2-6สัปดาห์ หลังการสักครับ
เพิ่ม เติมเรื่องของยาปฏิชีวนะ หรือยาฆ่าเชื้อ ที่เป็นครีมสำหรับการนำมาทา หลังจากสักเสร็จ ถ้าหาBepanthenไม่ได้ อย่างน้อยสุดแนะนำ ครีมประเภท Vitamin A และ Vitamin D ที่ผสมอยู่ในหลอดเดียวกัน ส่วนVitamin E หรือครีมนีเวีย ถ้าแผลยังไม่หายอย่าพึ่งไปใช้ครับ เอาไว้ใช้หลังจากสะเก็ดแผลหลุดหมดแล้วค่อยนำมาบำรุงผิวครับ
อย่าลืม ครีมบำรุงผิวประเภท Vitamin E หรือครีมนีเวีย เป็นครีมประเภทสำหรับบำรุงผิว ไม่ใช่ครีมรักษารอยสักใหม่ครับ อย่าใช้ผิดประเภทครับ...
( ช่างพลาย ,ข้อมูลการดูแลรักษาแผลสัก)

ข้อมูลจาก : Easy Tattoo


2553-06-11

การลบรอยสัก

การลบรอยสักมีหลายวิธี

1 การตัดออกและเย็บแผลเข้าหากัน จะได้ผลดีมากที่สุด คือรอยสักหายหมด แต่ใช้ได้ในรอยสักที่มีความกว้างไม่มาก ( ความยาวไม่ใช่ปัญหาสำคัญนัก)

2 ถ้ารอยสักมีความกว้างมากเย็บเข้าหากันไม่ได้ มีทางเลือก อีก 4 ทาง
2.1 ใช้หนังมา ปะ อย่างที่ถามมา แต่การปะหนังก็เหมือนปะผ้า จะเห็นร่องรอย การปะได้ สีของผิวหนัง ก็มักไม่เหมือนเดิม
2.2 ใช้ เลเซอร์ ขัดออก มักจะต้องทำหลายครั้ง ช่วยให้จางลงได้บ้าง แต่มักไม่หมด เพราะการสักในบ้านเรามักสักลึก
2.3 ใช้เครื่อง กรอ ผลไม่ต่างจากเลเซอร์มากนัก
2.4 ค่อยๆตัดลดรอยสักลงทีละส่วน
**จะใช้วิธีใดก็ตามการแก้ไขมักเห็น ร่องรอยเสมอ มากหรือน้อย แล้วแต่ปริมาณ และความลึกของการสัก ดีที่สุด คือ เลือกแบบที่คุณชอบที่สุด มั่นใจที่สุด แล้วคุณจะหลงไหลมัน..